Ryan Quickfall Art 3 สิ่งประดิษฐ์ที่เปลี่ยนวิธีการสร้างสรรค์งานศิลปะ

3 สิ่งประดิษฐ์ที่เปลี่ยนวิธีการสร้างสรรค์งานศิลปะ

การสร้างสรรค์งานศิลปะ

มาทำความรู้จักกับ 3 สิ่งประดิษฐ์ที่เปลี่ยนวิธีการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะตั้งแต่ยุคโบราณ มาจนกระทั่งถึงปัจจุบันกันเลย มีการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะในรูปแบบที่หลากหลายมากที่น่าสนใจ

1. เตาเผาเซรามิก

เซรามิกเป็นหนึ่งในรูปแบบศิลปะที่เก่าแก่ที่สุด มีหลักฐานการสร้างสรรค์มานานพันปีจากวัฒนธรรมหลายสิบแห่งทั่วโลก และยังคงเฟื่องฟูในปัจจุบัน รูปปั้นเซรามิกที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังหลงเหลืออยู่ เช่น…Moravian Venus ของ Dolní Věstonice มีอายุระหว่าง 29,000 – 25,000 ปีก่อนคริสตศักราช ในปี ค.ศ. 200 ช่างฝีมือชาวจีนในสมัยฮั่นได้พัฒนา “เตาเผามังกร” ที่มีขนาด เตาเผาเหล่านี้ผลิตเครื่องเคลือบดินเผาชิ้นแรกของโลกออกมามากมาย และด้วยเตาเผาเหล่านี้ จีนจึงกลายเป็นศูนย์กลางเซรามิกระดับโลก  

2. กระจกสี

คาดว่ามีรากฐานมาจากอียิปต์โบราณ มีการค้นพบกลุ่มลูกปัดแก้วสีที่สร้างขึ้นราว 2,700 ปีก่อนคริสตศักราช ซึ่งเป็นตัวอย่างแก้วที่มนุษย์สร้างขึ้นในยุคแรกสุดที่รู้จัก เมื่อถึงศตวรรษที่ 1 ชาวโรมันสร้างกระจกบานหน้าต่างสำหรับที่อยู่อาศัย แต่มีลักษณะเป็นสีเดียวกันและค่อนข้างทึบ แต่หน้าต่างกระจกสีที่รู้จักในปัจจุบัน มีลักษณะเป็นบานหน้าต่างหลากสีเรืองแสง ได้รับการบุกเบิกโดยชาวคริสต์ในศตวรรษที่ 1 ในยุคกลางของยุโรป กระจกสีเป็นทั้งรูปแบบศิลปะที่ประณีตและเป็นปรากฏการณ์ทางศาสนา ไม่เพียงแต่คุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมของกระจกสีจะสร้างประสบการณ์อันศักดิ์สิทธิ์ให้กับผู้ที่ไปโบสถ์เท่านั้น  

 3. พิมพ์ไม้

ราชวงศ์ถังเป็นยุคทองของศิลปะและวัฒนธรรมจีน และได้ริเริ่มนวัตกรรมทางวัฒนธรรมมากมายตั้งแต่ ค.ศ. 618 – 907 และหนึ่งในเทคนิคที่ได้รับความนิยมคือการพิมพ์แกะไม้ เป็นการแกะสลักท่อนไม้ จากนั้นเติมหมึกลงในส่วนต่าง ๆ ก่อนที่จะกดลงในกระดาษ เริ่มแรกใช้สำหรับจำลองข้อความทางพุทธศาสนา แต่ก็มีการใช้สร้างภาพเป็นครั้งคราวเช่นกัน ตัวอย่างแรกสุดของงานศิลปะภาพพิมพ์แกะไม้คือภาพประกอบของ Diamond Sutra จากปี 868 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสามารถใช้หมึกได้เพียงสีเดียวต่อบล็อก จึงยังไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นศิลปะรูปแบบหนึ่ง จนกระทั่งถึงช่วงสหัสวรรษ ช่างฝีมือในสมัยซ่งพัฒนาการพิมพ์แบบทูโทน โดยใช้บล็อกแยกต่างหากสำหรับสีต่าง เช่น….สีแดงชาด นอกจากนี้ในศตวรรษที่ 14 ในสมัยราชวงศ์หมิง มีการสร้างองค์ประกอบสีเต็มรูปแบบโดยใช้บล็อกหลายช่อง ในช่วงเวลานี้เองที่การพิมพ์แกะไม้ไปถึงยุโรป โดยศิลปินอย่าง Albrecht Dürer และ Titian นิยมนำเทคนิคนี้ไปใช้ในบ้านเกิดตลอดศตวรรษที่ 15 และ 16  

ส่วนใหญ่แล้วเทคนิคในการพัฒนาผลงานศิลปะในช่วงยุคแรก ๆ มักจะมาจากความบังเอิญ แต่เมื่อมีการก่อร่างสร้างผลงานศิลปะด้วยเทคนิคชนิดนั้นขึ้นมาแล้ว จึงค่อยมีการพัฒนาต่อยอดอย่างจริงจังขึ้นมาในภายหลัง และกลายเป็นผลงานศิลปะในปัจจุบันที่เราต่างรู้จักกันดี

Related Post

ศิลปะเปเปอร์มาเช่

แนะนำวิธีสร้างสรรค์ผลงานศิลปะเปเปอร์มาเช่แนะนำวิธีสร้างสรรค์ผลงานศิลปะเปเปอร์มาเช่

การสร้างผลงานศิลปะจากเปเปอร์มาเช่นั้นทั้งง่าย และน่าทึ่ง อีกทั้งยังเป็นการสร้างงานอดิเรกที่ดีและน่าสนใจ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการรังสรรค์ศิลปะของตัวเองขึ้นมา หรืออยากจะนำไปใช้ประกอบกิจกรรมให้เด็ก ๆ หรือคนวัยชราได้เรียนรู้การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะชนิดนี้ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน ในวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะเปเปอร์มาเช่ เริ่มจากขั้นตอนง่าย ๆ และสามารถทำได้ทันทีเลย   อุปกรณ์ที่คุณต้องการใช้งาน  มาสร้างสรรค์ผลงานศิลปะเปเปอร์มาเช่กันเลย เริ่มจากการฉีกหนังสือพิมพ์ให้เป็นเส้น ๆ อย่าตัดเด็ดขาด ความยาวของหนังสือพิมพ์ที่ฉีกออกมาจะแตกต่างกันไป แต่เราขอแนะนำประมาณ 1 – 2 นิ้ว และเป่าลูกโป่งตามขนาดที่คุณต้องการทำ หลังจากนั้นจุ่มหนังสือพิมพ์ลงในกาวลาเท็กซ์แบบบาง ๆ และนำมาแปะให้ทั่วลูกโป่ง และเมื่อแปะลงไปแล้วให้ใช้นิ้วของคุณเกลี่ยให้เรียบ แปะแผ่นหนังสือพิมพ์ทั้งหมดจะซ้อนทับกัน หลังจากที่คุณแปะลงไปในหนึ่งชั้นแล้ว ปล่อยให้แห้งสนิท

Read MoreRead More
จานสี

ต้นกำเนิดของ จานสี (The paint palette) ในโลกศิลปะต้นกำเนิดของ จานสี (The paint palette) ในโลกศิลปะ

หากคุณเป็นจิตรกรในสมัยยุคกลางตอนต้น คุณจะต้องแยกสีอันมีค่าของคุณ ในชามหลาย ๆ ใบและนำมาจัดเรียงตามพื้นที่ทำงานของคุณ เพื่อที่จะได้เป็นการเสี่ยงที่จะผสมสีโดยไม่ได้ตั้งใจ (และแน่นอนว่าต้องมีจานสีให้ล้างมากมาย) และเห็นได้ชัดว่าความไร้ประสิทธิภาพนี้ นำไปสู่การพัฒนาจานสีของศิลปิน ซึ่งช่วยทำให้จิตรกรมีความคล่องตัว และมีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น การถือกำเนิดของจานสี  แม้ว่าจะไม่ทราบแน่ชัดว่าจานสีประดิษฐ์ขึ้นเมื่อใด แต่ภาพวาดที่มาจากจานสีที่เก่าแก่ที่สุดที่รู้จักกันบางส่วน ทำมาจากไม้แบบดั้งเดิม สามารถจัดเรียงสีน้ำมันได้หลายสี ซึ่งนำมาใช้ในการสร้างผลงาน De Mulieribus Claris ซึ่งเป็นคอลเล็กชันที่มีชื่อเสียงในปี ค.ศ. 1374 มีการถ่ายทอดภาพชีวประวัติของผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง ภาพประกอบเหล่านี้แสดงให้เห็นจิตรกรหญิงกำลังทำงานสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ และมีแผ่นไม้ขนาดเล็กที่มีรอยแต้มสีอยู่ด้านบน ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังจดจ่อวาดภาพเหมือนของตนเองอย่างลึกซึ้ง และมีจานสีเป็นรูปดาว 9 แฉกอยู่บนโต๊ะทำงาน  

Read MoreRead More